พอดีได้มีโอกาสฟังธรรมบรรยายถึงประวัติของพระบัวเข็ม หรือพระอุปคุต ขณะไปปฏิบัติธรรมที่วัดปทุมวนาราม ด้วยความที่ไม่อยากให้สิ่งที่ได้ยินได้ฟังสูญไป จึงได้ทำการหาข้อมูลมาใส่เพื่อเก็บไว้ในการเตือนความจำ ดังรายละเอียดข้างล่างนี้หละครับ :)
ประวัติพระอุปคุต ( พระบัวเข็ม )
ตามตำนานกล่าวไว้ว่าพระอรหันต์อุปคุตเถระท่านอยู่ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ในครั้งนั้นพุทธศาสนาเสื่อมถอยลงเนื่องจาก มีเดียรถีแฝงมาอาศัยผ้าเหลืองหากิน ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่เสื่อมศรัทธาในพระศาสนา พระอรหันต์อุปคุตเถระท่านจึงปลีกวิเวกไปเข้าสมาบัตินิโรจอยู่ที่สะดือทะเล
ร้อน จนถึงพระเจ้าอโศกมหาราชทนไม่ได้จึงได้มีพระราชดำรัสที่จะชำระพระพุทธศาสนา ให้บริสุทธิ์ ตามเจตนารมณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่วางการดำเนินแนวทางไว้ให้
จึงจำเป็นที่จะต้องมีพระอรหันต์เถระที่ทรงคุณทางปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวทเป็นผู้ชำระสังคายนา คณะสงฆ์จึงแจ้งแก่มหาบพิตรองค์อโศกมหาราชว่ามีพระอรหันต์มหาเถระผู้หนึ่งมี นามว่าพระอุปคุต มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมหาใครเทียมได้ยาก ถ้าได้นิมนต์ท่านให้เป็นประธานสงฆ์ในการสังคายนาพระไตรปิฎกนี้คงสำเร็จได้ เป็นแน่แท้
องค์มหาบพิตรอโศกจึงได้อธิฐานจิตอาราธนาพระอุปคุตมหา เถระ พระอุปคุตเถระท่านเมื่อทราบด้วยญาณวิเศษท่านจึงรับนิมนต์ในครั้งนี้ เมื่อท่านก้าวเดินขึ้นมาจากทะเล ปรากฎว่ามีสาหร่ายติดมากับร่างกายท่านเต็มไปหมด
เมื่อสังคายนาพระ ไตรปิฎกเรียบร้อยบริบูรณ์แล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชจึงได้ขจัดเดียรถีที่แฝงมาในพระพุทธศาสนาจนหมดสิ้นไป นำความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนากลับคืนมา
พระอุปคุตเถระปางบัวเข็มนี้จึงเป็นปางที่ท่านเข้านิโรจสมาบัติในสะดือทะเลนั่นเอง
เรื่อง ราวของท่านยังไม่จบเพียงเท่านั้น จะกล่าวพญามารที่เคยมาขัดขวางพระโพธิ์สัตว์เจ้าชายสิทธัตถะใต้ต้นพระศรีมหา โพธิ์ จนเจ้าชายสิทธัตถะกล่าวให้พระแม่ธรณีเป็นพยาน พระแม่ธรณีท่านจึงบีบมวยผมปรากฎว่ามีน้ำที่เกิดจากการสั่งสมบารมีของพระ โพธิสัตว์โดยให้พระแม่ธรณีเป็นพยานนั้น ไหลบ่าท่วมพัดกองทัพพญามารจนแตกพ่ายไป และในวันนั้นเองเจ้าชายสิทธัตถะก็บรรลุธรรมเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พระศาสดาจึงได้บังเกิดขึ้นในโลก
พญามารท่านนี้เองเป็นที่เกรง กลัวของเหล่าเทวดา พรหม พระอุปคุตเถระท่านจึงทรมานพญามารด้วยอภิญญาของท่าน จนพญามารสิ้นฤทธิ์ยอมรับความพ่ายแพ้
พญามารท่านนี้จึงเปลี่ยนจาก มิจฉาทิฏฐิกลายเป็นสัมมาทิฏฐิจนสำเร็จ พระอุปคุตเจ้าท่านจึงเป็นที่สรรเสริญของเหล่าโยนิสี่ทั้งหลายตั้งแต่อดีตจวบ จนถึงปัจจุบัน
พระเกจิคณาจารย์ทั้งหลายจึงมักสร้างพระบูชาพระอุป คุตเถระเพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของท่านที่สร้างไว้ เป็นแบบอย่างที่ดีงามที่สืบเนื่องกันมาจวบจนทุกวันนี้
ในอดีตกาล นับพันปีนั้นมีกิ่งไม้ทางทิศใต้ของต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่พุทธคยาเกิดหักลงมา พระเถระที่นั่นเห็นว่าปล่อยไว้ก็สูญเปล่า จึงได้นำมาแกะเป็นพระพุทธรูปและเรียกพระนี้ว่า"พระทักขิณะสาขา" และนำไปประดิษฐานที่วัด เพราะคนสมัยโบราณนั้นไม่นิยมนำพระพุทธรูปเข้ามาไว้ในบ้าน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจึงนิยมนำไม้โพธิ์มาแกะสลักเป็นพระพุทธรูป หากต้องการให้เกิดความรู้สึกขลังยิ่งขึ้นก็จะใช้กิ่งไม้จากหน่อศรีมหาโพธิ์ ที่ตายพรายเองที่ชี้ไปทางทิศใต้มาแกะสลัก บางตำราก็ว่าให้ใช้กิ่งที่ชี้ไปทางทิศตะวันออก
ชาวพม่ารามัญนับถือ พระอุปคุตเถระกันเป็นจำนวนมาก จึงมีการสร้างรูปบูชาของท่านขึ้นมา เห็นได้จากพระบูชาพระอุปคุตที่มีศิลปะแบบพม่าอยู่มากมาย ทั้งแบบปางบัวเข็ม และแบบปางจกบาตร
หลวงพ่ออุตตมะ แห่งวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี แต่เดิมท่านก็เป็นชาวมอญ ท่านจึงได้สร้างพระอุปคุตปางบัวเข็ม และปางจกบาตร ไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหาได้เช่าไปบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งการบูชาพระอุปคุตนี้มีความหมายเป็น 2 นัย คือ 1 พระอุปคุตท่านเป็นพระอรหันต์ผู้มีฤทธิ์ปราบมาร จึงช่วยปกป้องคุ้มครองให้ผู้ที่บูชาห่างไกลจากภัยอันตรายต่าง ๆ ส่วนนัยที่ 2 คือท่านจำศีลอยู่ในน้ำ จึงช่วยให้ผู้บูชาอยู่เย็นเป็นสุข ไม่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจ บรรดาผู้ที่นับถือศรัทธาหลวงพ่ออุตตมะที่ทราบในข้อนี้ จึงนิยมที่จะหาพระอุปคุตปางต่าง ๆ ของท่านไว้บูชาติดบ้านเพื่อความสงบร่มเย็น
คำบูชา พระอุปคุต
หรือ พระบัวเข็มการ ตั้งบูชา นิยมการตั้งบูชาบนฐานรองรับ อยู่กลางภาชนะใส่น้ำ เป็นการจำลองคล้ายกับท่านจำพรรษาอยู่ในมหาสมุทร แล้วใช้ดอกมะลิลอยในน้ำบูชา และต้องตั้งต่ำกว่าพระพุทธ เนื่องจากเป็นพระอรหันต์ สาวกของพระพุทธเจ้า
คำบูชาพระอุปคุต
อุปะ คุตโต จะ มะหาเถโร สัมพุทเธนะ วิยากะโต มารัญจะ มาระพะลัญจะ โส อิทานิ มะหาเถโร นะมัสสิตะวา ปะติฎฐิโต อะหัง วันทามิ อิทาเนวะ อุปะคุตตัง จะ มาหาเถรัง ยัง ยัง อุปัททะวัง ชาตัง วิธัง เสติ อะเสสะโต มะหาลาภัง ภะวันตุเม ฯ
หรือ (แบบย่อ) อุปะคุตโต จะ มะหาเถโร ยักขาเทวา นะระปูชิโต โสระโห ปัจจะ ยาทิมปิ มะหาลาภัง ภะวันตุเม ฯ(เกิดโชคลาภและคุ้มกันภัยภิบัติอันตรายทั้งปวง)คำบูชาพระมหาอุปคุต
นโม ๓ จบ
พระ มหาอุปคุตโต พระมหาอุปคุตตัง จะมหาเถโร สัพเพชะนา พะหูชะนา อิถีชะนา มามังพุทธะจิตตัง จะมหาลาโภ พุทธะธัมโม จะมหาลาภัง พุทธะสังฆัง จะมหาสัจจัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม ฯ
อุปคุตตะ จะมหาเถโร สัพพะเสน่หาปุพชิโต โสระโห อุปะคุตะ ปัจจะยา ธิมะหิ อุตตะโม โหติ สัพพะทุกขะ สัพพะภะยะ สัพพะโรคะ พุทธา ธัมมา สังฆา อานุภาเวนะ วินาสสันติ (นิยมสวดบูชาพระบัวเข็ม หรือ พระธาตุอุปคุต)
คำบูชาขอลาภพระอุปคุต
มหา อุปคุตโต จะมหาลาโภ พุทโธลาภัง สัพเพชะนา พะหูชะนา ราชาปุริโส อิถีโยมานัง นะโมโจรา เมตตาจิตตัง เอหิจิตติจิตตัง ปิยังมะมะ สะเทวะกัง สะพรหมมะกัง มะนุสสานัง สัพพะลาภัง ภะวันตุเม ฯ
เอหิจิตติ จิตตังพันธะนัง อุปะคุตะ จะมหาเถโร พุทธะสาวะกะ อานุภาเวนะ มาระวิชะยะ นิระภะยะ เตชะปุญณะตา จะเทวะตานัมปิ มะนุสสานันปิ เอหิจิตตัง ปิยังมะมะ อิมังกายะ พันธะนัง อะทิถามิ ปะอัยยิสสุตัง อุปัจสะอิ ฯวิธีสวดขอลาภให้จุดธูปเทียนบูชา พร้อมกับดอกไม้หอม เครื่องหอมน้ำหอมต่างๆ เทหยดใส่ในขันน้ำมนต์ ณ ที่บูชาพระในร้านค้าขาย หรืออาคารสำนักงาน แล้วอธิษฐานขอให้กลิ่นควันธูปเทียน ลมพัดไปทางไหน ของให้ดลใจผู้คนเข้ามาอุดหนุนตลอด ขอให้ดำเนินกิจการด้วยความราบรื่น มีความสำเร็จสมปรารถนาทุกประการ เมื่ออธิษฐานจุดธูปเทียนบูชาแล้ว ให้สวด นะโม ๓ จบ และสวดคำบูชาขอลาภพระอุปคุต ๑ จบ แล้วทำน้ำมนต์สวดด้วย คำบูชาขอลาภพระมหาอุปคุต อีก ๑ จบ เสร็จแล้ว เอาน้ำมนต์ประพรมร้านค้า และสินค้าในร้านค้า หรือทำธุรกิจ ก็ให้เอาน้ำมนต์ประพรมภายในสำนักงานและอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำธุรกิจนั้นทั้งหมด
คาถาพระมหาอุปคุตผูกมาร
นโม ๓ จบ
มหา อุปคุตโต มหาอุปคุตตัง กายะพันทะนัง อมยิสะ พุทธังทะเถโร ธัมมังทะเถโร สังฆังทะเถโร ปะอัยยะสุตัง อุปัจสะอิ อิมังกายะพันทะนัง อะทิถามิ ฯ
(คาถา พระมหาอุปคุตผูกมาร มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์มาก เสกด้วยสายสิญจน์ทำเป็นมงคลสวมคอ หากปลุกเสกครบ ๑๐๘ ครั้งสามารถป้องกันภูตผีปีศาจทั้งปวง และป้องกันอุปัทวอันตรายต่างๆ ถ้าเสก ๓ - ๗ คาบ ผูกคอหรือคล้องคอคนถูกผีเจ้าเข้าสิง จะเจ็บปวดร้องครวญครางโหยหวยอย่างน่าเวทนา ถ้าจะให้ผีที่สิงอยู่ออกไป ให้ถอดหรือแก้ด้ายผูกคอออก แล้วเอาด้ายนี้ตีปัดตามตัวคนที่ถูกผีสิงอยู่ ผีจะอยู่ไม่ได้จะเผ่นออก และไม่กล้ากลับมารบกวนคนในบ้านอีก และยังมีการปลุกเสกในทางพิชิตโรคาพาธได้วิเศษนัก)
คำบูชาพระบัวเข็ม
นโม ๓ จบ
กิจจะ มาคะอุปคุตโต อะมะหาเถโร สัมพุทเธวิยาคะโต มาระรัญจะ โสอิทานิ จะมะหาเถโร นะมัดปะสิทตะวาปะ ถิติโกอหัง วันทามิ พาเนวะอุปคุตตัง จะมะ หาเถรัง ยังยังอุปัทธะวังชาติ วิทังเสนติ อะเสสะโต นโมพุทธายะ
พระบัวเข็มจะมะหา เถโร สัพพะลาภังภะวันตุเม อิติปิโสภะคะวา พุทโธชัยโย ธัมโมชัยโย สังโฆชัยโย เมตตา ฉิมพาลีจะมะหา เถโร สัพพะลาภัง ตะวันตุเม ฯ
ชัยยะตัง ปัตถะพีตับภัง สามินโท โสราชาปูเชมิ ฯ
หรือ
จิต ติจิตติ มิตติเอหิมะมะ อุปปะคุตโต จะมะหาเถโร นานาปาระมิ สัมมะปัณโน อิติปิโสภะคะวา มะอะอุเมตตา จะมะหาราชา สัพพะสะเนหา จะปูชิตา สัพพะทุกขัง มะหาลาภัง สัพพะโกพัง วินาสสันติ
ที่มา: http://www.ubmthai.com/
![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() |
![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() |
![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() |
![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() |
![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() | ![]() |
Lotus Buddha085 พระบัวเข็ม ศิลปะ: พม่า เนื้อไม้ หน้าตัก 3.5 นิ้ว ลงรักปิดทอง รายละเอียด SOLD (ขายแล้ว) |
No comments:
Post a Comment